25 ปี ‘พรีเมียร์ลีก’ เกมลูกหนังเปลี่ยนโลก

พรีเมียร์ลีก จุดกำเนิดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เกิดจากวิกฤตของวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งเข้าสู่ยุคเสื่อมจากปัจจัย ‘3 H’s’ นั่นคือ โศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล (1985), โศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโรห์ (1989) และปัญหาฮูลิแกนส์ หรืออันธพาลลูกหนังที่เป็นมะเร็งกัดกินวงการฟุตบอลอังกฤษมายาวนาน พรีเมียร์-ลีก 2024

แนวคิดของการแยกลีกเกิดจากความต้องการ ‘ลดตัวหาร’ จาก 92 ให้เหลือ 22 เนื่องจากสโมสรในระดับสูงสุดนั้นได้รับเงินส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดน้อยมากจาก ITV และ BBC โดยทั้ง 22 สโมสรในระดับสูงสุดลงทะเบียนกับองค์กรใหม่ที่ชื่อ เอฟเอ พรีเมียร์ลีก (FA Premier League) และลงแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งกลายเป็นลีกสูงสุดใหม่ของอังกฤษด้วยการทำการตลาดอย่างชาญฉลาด พรีเมียร์ลีก 2024 ทำให้ความนิยมของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเติบโตอย่างรวดเร็ว ความนิยมนั้นไม่ได้ถูกจำกัดแค่เฉพาะในอังกฤษ แต่เป็นทั่วโลกที่น้อมรับพรีเมียร์ลีกเข้ามาอยู่ในอ้อมใจ โดย BSkyB เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดคำโฆษณาในเวลานั้นว่า ‘A whole new ball game’ พรีเมียร์ลีก 1992

ประวัติ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

พรีเมียร์ลีก เดิมฟุตบอลลีกแห่งนี้ ใช้ชื่อว่า ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง ซึ่งมีจัดการแข่งขันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431 (ค.ศ. 1888) และถือว่าเคยเป็นลีกฟุตบอลที่ยาวนานที่สุดในโลก โดยในปี พ.ศ. 2535 ในฤดูกาล 1992-93 ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นจากรูเพิร์ธ เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) นักธุรกิจสื่อสารรายใหญ่เจ้าของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์สกาย (BSkyB)

พยายามผลักดันให้สโมสรฟุตบอลที่จะลงแข่งขันในดิวิชันหนึ่งประจำฤดูกาล 1992-93 ถอนตัวออกมาจัดตั้งเป็นพรีเมียร์ลีกทำให้ฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษที่มีอายุ 104 ปี ต้องยุติลง ขณะเดียวกันทางฟุตบอลลีกเดิมได้เปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชันสอง มาเป็น ดิวิชันหนึ่ง และดิวิชันอื่นได้เปลี่ยนตามกันไป ในช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่วงการฟุตบอลอาชีพของอังกฤษตกต่ำอย่างมาก เกิดเหตุการณ์หลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องของสนามกีฬาที่มีปัญหา

เหตุการณ์อันธพาลลูกหนัง หรือที่เรียกว่าฮูลิแกน ทำลายภาพลักษณ์ของฟุตบอลอังกฤษ ไฟไหม้อัฒจันทร์ วันที่ 11 พฤษภาคม 2528 ที่สนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลแบรดฟอร์ดซิตี ในระหว่างการแข่งขัน มีผู้เสียชีวิต 56 คน เหตุการณ์วันที่ 15 เมษายน 2532 ที่สนามฟุตบอลฮิลส์เบอโรของสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์เวนส์เดย์ มีผู้คนเหยียบกันเสียชีวิตกว่า 96 คน พรีเมียร์ลีก 1992

นอกจากนี้โศกนาฏกรรมเฮย์เซลที่มีผู้เสียชีวิต 39 คน ทำให้ยูฟ่าสั่งห้ามไม่ให้สโมสรจากอังกฤษเข้าร่วมการแข่งขันชิง ถ้วยสโมสรในยุโรปเป็นเวลา 5 ปี อันธพาลลูกหนังที่ตามไปเชียร์ทีมที่ชื่นชอบ หลังจากการแข่งขันจะเกะกะระราน เข้าผับดื่มกินจนเมามาย บ้างก็วิวาทกับแฟนฟุตบอลเจ้าถิ่นเกิดเหตุการณ์วุ่นวายบางครั้งรุนแรงถึงขั้นจลาจลหรือไม่ก็มีคนเสียชีวิต โดยโศกนาฏกรรมเฮย์เซล์ส่วนหนึ่งมาจากคนกลุ่มนี้เช่นกัน พรีเมียร์ลีก 2024

หลายเหตุการณ์ทำให้แฟนฟุตบอลไม่สามารถชมการแข่งขันได้อย่างสงบสุข เนื่องด้วยกลัวจะโดนลูกหลง ประกอบกับสภาพสนามที่ย่ำแย่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือการป้องกันเหตุฉุกเฉินอย่างดีพอ ทำให้ชาวอังกฤษหลายคนตัดสินใจรับชมการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ที่บ้าน แทนที่จะเดินทางมาเชียร์ในสนามดังเช่นอดีต ช่วงทศวรรษ 1980 รายได้ของสโมสรจากค่าผ่านประตูซึ่งเป็นรายได้หลักได้ลดลงอย่างมาก มีเพียงสโมสรชั้นนำไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังคงมีกำไร ในฤดูกาล 1986-87 ทุกสโมสรฟุตบอลมีกำไรสุทธิรวมเพียง 2.5 ล้านปอนด์ พอถึงฤดูกาล 1989-90 รวมทุกสโมสรขาดทุน 11 ล้านปอนด์ ทำให้นายทุนไม่กล้าจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจกีฬาอาชีพนี้อย่างเต็มที่ หลายสโมสรในช่วงนั้นมีข่าวว่าใกล้จะล้มละลาย พรีเมียร์-ลีก 2024

หมดยุคลูกหนังเปื้อนโคลน

สำหรับน้องๆ ที่อายุน้อยกว่า 25-30 ปี และได้เห็นการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในปัจจุบันที่ทั้งหรูหรา อู้ฟู่ เต็มไปด้วยทีมที่ร่ำรวยเงินทอง และเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่มีรายได้ในระดับอภิมหาเศรษฐี อาจจะนึกไม่ออกครับว่าเมื่อ 25 ปีก่อนฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษอยู่ในสภาพที่ลำบากมาก พรีเมียร์ลีก 1992

จุดกำเนิดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เกิดจากวิกฤตของวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งเข้าสู่ยุคเสื่อมจากปัจจัย ‘3 H’s’ นั่นคือ โศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล (1985), โศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโรห์ (1989) และปัญหาฮูลิแกนส์ หรืออันธพาลลูกหนังที่เป็นมะเร็งกัดกินวงการฟุตบอลอังกฤษมายาวนาน พรีเมียร์-ลีก 2024

โศกนาฏกรรมที่เฮย์เซลในเกมนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ ระหว่างยูเวนตุสและลิเวอร์พูล ทำให้สโมสรฟุตบอลจากอังกฤษถูกแบนจากการเล่นสโมสรฟุตบอลยุโรปเป็นระยะเวลา 5 ปี ทำให้ทีมในเมืองผู้ดีซึ่งเดิมเป็นหนึ่งในเจ้าแห่งฟุตบอลยุโรป กลายเป็นฝ่ายตามหลังสโมสรจากชาติอื่นที่พัฒนาขึ้นมาและแซงหน้าไป

นักฟุตบอลระดับชั้นนำของประเทศหลั่งไหลออกนอกประเทศ บวกกับปัญหาฮูลิแกนส์อาละวาด ทำให้ผู้คนไม่อยากเสี่ยงเข้าไปชมเกมในสนาม ส่งผลให้ยอดผู้ชมในสนามลดจำนวนลง ผลสืบเนื่องตามมาคือรายได้ของสโมสรลดลงจากนั้นเมื่อเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโรห์ ซึ่งเป็นเหมือนจุดต่ำสุดของวงการฟุตบอลอังกฤษมันเป็นเหมือนสัญญาณที่เตือนให้พวกเขาตระหนักว่าควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เกมฟุตบอล และสนามฟุตบอล ซึ่งเป็น ‘รากเหง้า’ ทางวัฒนธรรมคงอยู่สืบไป พรีเมียร์ลีก 2024

BSkyB ผู้ปลุกมนต์ขลังลูกหนังผู้ดี

การกำเนิดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเองก็มีเบื้องหลังครับ และคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือ BSkyB Television สถานีโทรทัศน์ของ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) เจ้าพ่อวงการสื่อของอังกฤษ

BSkyB ซึ่งเป็นโทรทัศน์ในระบบสมาชิก (Pay TV) ที่จับตามองสถานการณ์ของวงการฟุตบอลอังกฤษมานาน ได้เห็นความตกต่ำ รอยร้าวที่เกิดขึ้น และได้เห็นความต้องการที่แท้จริงของเหล่าสโมสรต่างๆ ในระดับลีกสูงสุด ที่เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียง ความสำเร็จ และประวัติศาสตร์นั้นมันกินไม่ได้พวกเขาอยากได้เงิน และ BSkyB ก็รู้วิธีที่จะหาเงินมาให้

สิ่งที่พวกเขาทำคือการรอจังหวะที่เหมาะสม โดยหลังจากเฝ้ามองอยู่ร่วม 2 ปี (1990-1992) เมื่อมีสัญญาณว่าทีมในลีกสูงสุดพร้อมแยกตัวออกมาตั้งลีกใหม่ BSkyB ประกาศทันทีว่าพวกเขาพร้อมที่จะซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ‘ลีกใหม่’เมอร์ด็อก กดปุ่มไฟเขียวให้ BSkyB ทุ่มข้อเสนอมากเป็นประวัติการณ์ถึง 304 ล้านปอนด์สำหรับสัญญาการถ่ายทอดสดเป็นระยะเวลา 5 ปีBBC รู้ตัวว่าพวกเขาสู้ไม่ได้จึงขอถอยและสนับสนุนอยู่ข้างหลัง โดยขอรักษาไว้แค่ไฮไลต์การแข่งขันและรายการยอดนิยม Match of the Day พรีเมียร์-ลีก 2024

บทความแนะนำ