แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาทำความรู้จักประวัติของ สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ man city ทีมที่ล้มลุกคลุกคลานในยุคก่อน แมนซิตี้ 2024 จนไต่ระดับเป็นยอดทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษในปัจจุบัน แมนซิตี้

ประวัติสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ชื่อเต็ม : Manchester City Football Club แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ฉายา : เดอะ ซิตี้เซนส์ / ฉายาในไทย เรือใบสีฟ้า
ก่อตั้ง : ค.ศ. 1880
สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม / เอติฮัด สเตเดี้ยม (ความจุ: 53,400 ที่นั่ง)
เจ้าของ : ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ลิมิเต็ด
ประธาน : คัลดูน อัล มูบารัค
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี (อังกฤษ: Manchester City Football Club) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แมนฯ ซิตี้ ตั้งอยู่ ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ปัจจุบันแข่งขันในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งเมื่อปี 1880 ในชื่อ เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก ในปี 1887 และเปลี่ยนชื่อเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 1894

สนามเหย้าของสโมสรคือสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ หรือเป็นที่รูกจักในชื่อ เอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง โดยสโมสรได้ใช้งานสนามแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2003 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้สนาม เมน โร้ด เป็นสนามเหย้าตั้งแต่ปี 1923 แมนซิตี้ 2024

แมนฯ ซิตี้เข้าร่วมฟุตบอลลีกในปี 1892 และคว้าถ้วยเอฟเอ คัพ เป็นรางวัลแรกของสโมสรในปี 1904 หลังชนะโบลตัน 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อ 23 เมษายน 1904 โดยช่วงเวลาที่สโมสรเริ่มประสบความสำเร็จคือทศวรรษ 1960 ที่คว้าทั้งแชมป์ลีก, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ, เอฟเอคัพ และ ลีกคัพภายใต้การคุมทีมของ โจ เมอร์เซอร์ และ มัลคอม  อัลลิซัน ก่อนเริ่มเข้าสู่ช่วงตกต่ำหลังจากแพ้ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 1981 โดยเคยตกชั้นจนถึงลีกระดับที่สามมาแล้ว (ลีกวัน ในปัจจุบัน) แมนซิตี้

ปี 1989 แมนฯ ซิตี้สามารถกลับสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้งละมีผลงานที่พัฒนาขึ้นจนจบในอันดับ 5 สองฤดูกาลติดต่อกันในปี 1991 และ 1992 ภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ รีด แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับพวกเขาอีกครั้ง แม้ว่าซิตี้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสโมสรผู้ร่วมก่อตั้งพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นการแข่งขันลีกสูงสุดที่เปลี่ยนชื่อมาจากฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่ง แต่พวกเขากลับมีผลงานที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ

ปี 1996 พวกเขากลายเป็นทีมท้ายตารางและตกชั้น และหลังจากเล่นในลีกสองอยู่สองฤดูกาล พวกเขาสร้างสถิติย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการมีคะแนนในฤดูกาลน้อยที่สุด (38 แต้ม จาก 38 เกม) ตั้งแต่ลงแข่งขันฟุตบอลลีก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสองสโมสรของทวีปยุโรปที่เคยชนะการแข่งขันถ้วยยุโรป แต่ต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกระดับสามของประเทศ ต่อจากสโมสรมักเดเบิร์ก ของเยอรมนี

หลังจากตกชั้น เดวิด เบิร์นชไตน์ นักธุรกิจชาวอังกฤษเข้ามาบริหารสโมสรในฐานะเจ้าของทีมคนใหม่ ทำให้สโมสรมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น และภายใต้การคุมทีมของ โจ รอยล์ สโมสรเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่นสองได้อีกครั้งและทำผลงานยอดเยี่ยมจนเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ แมนซิตี้

แต่ก็ต้องตกชั้นอีกครั้งในปี 2001 ซึ่งเป็นการตกชั้นครั้งสุดท้ายของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน หลัง เควิน คีแกนพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาได้อีกครั้งในฐานะแชมป์ดิวิชันหนึ่ง (ลีกระดับสองในขณะนั้น) ในฤดูกาล 2001-02 รวมทั้งสร้างสถิติใหม่มากมายให้แก่สโมสรทั้งการทำคะแนนมากที่สุดในฟุตบอลลีก และการทำประตูมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล

ฤดูกาล 2002-03 ซิตี้ ใช้สนามเมน โร้ดเป็นฤดูกาลสุดท้ายหลังจากใช้สนามนี้เป็นสนามเหย้ามาตั้งแต่ปี 1923 โดยมีไฮไลท์สำคัญโคือเปิดสนามเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ยุติช่วงเวลา 13 ปีติดต่อกันที่ไม่ชนะเกมดาร์บี้ แมนเชสเตอร์ ลงได้พร้อมได้สิทธิ์เล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี

ซึ่งหลังจากจบซีซั่นพวกเขาย้ายสู่สนามแห่งใหม่ คือ สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ เอติฮัด สเตเดี้ยม แต่ช่วง 4 ฤดูกาลแรกที่สนามแห่งใหม่ พวกเขาทำได้เพียงประคองตัวจบอันดับกลางตารางเท่านั้น แม้จะได้กุนซือชื่อดังอย่าง สเวน โกรัน -อีริคส์สัน มาคุมทีมในปี 2007 แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ไดีก่อนจะถูกปลด และเป็น มาร์ก ฮิวจ์ส มารับงานแทนในปีต่อมา แมนซิตี้ 2024

ปี 2008 สโมสรกลับไปประสบปัญหาการเงินอีกครั้ง ก่อนจะได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเข้าซื้อกิจการและดำรงตำแหน่งประธานสโมสร แต่เนื่องจากปัญหาคดีความทางการเมืองทำให้การบริหารสโมสรต้องหยุดชะงักและต้องขายต่อให้ กลุ่มทุนอาบูดาบี ด้วยมูลค่า 210 ล้านปอนด์ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นหนึ่งในทีมมหาเศรษฐีแห่งวงการฟุตบอลยุโรปมานับแต่นั้น

แต่กว่าที่ซิตี้จะประสบความสำเร็จต้องรอจนถึงปี 2011 ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่เมื่อคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 35 ปี นับตั้งแต่ได้แชมป์ลีกคัพในปี 1976 พร้อมกับจบอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกได้สิทธิ์เล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 man city

ฤดูกาล 2011-12 ถือเป็นซีซั่นแห่งไฮไลท์ของซิตี้ เมื่อพวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับแแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงนัดสุดท้ายโดยทั้งคู่มี 86 คะแนนเท่ากันแต่ผลต่างของประตูได้เสียของ”เรือใบสีฟ้า” ดีกว่า โดยซิตี้ พบ ควีนปาร์ค แรนเจอส์ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ขณะที่ยูไนเต็ดออกไปเยือนซันเดอร์แลนด์ ซึ่งยูไนเต็ดเอาชนะซันเดอร์แลนด์ไปได้ 1-0 และเกมจบไปก่อนแล้ว แมนซิตี้ 2024

ขณะที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังควีนปาร์ค 1-2 กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บเอดิน เซโก้ ยิงประตูตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 92 และ เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ ซัดประตูชัยในนาที 94 พาทีมพลิกกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างปาฏิหาริย์หลังจากรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดมานานกว่า 44 ปีman city

บทความแนะนำ